นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัท โตโยต้า ทูโช อีเล็คทรอนิคส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งต่อไปจะเรียกว่า “บริษัทฯ” เคารพความเป็นส่วนตัวของท่าน โดยกำหนด “นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” เพื่อบริษัทฯ จะได้ถือปฏิบัติเกี่ยวกับการใช้งานโปรแกรมโทรศัพท์เคลื่อนที่ของบริษัทฯ ซึ่งต่อไปจะเรียกว่า “โปรแกรมการใช้งาน” และต่อไปจะรวมเรียกว่า “บริการ” ซึ่งนโยบายดังกล่าวจะอธิบายถึงแนวทางที่บริษัทฯ จัดเก็บ ใช้ สิทธิต่างๆ และทางเลือกเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลให้ท่านทราบ

นโยบายนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของ “เงื่อนไขการใช้บริการ” ของบริษัทฯ ซึ่งต่อไปจะเรียกว่า “เงื่อนไขการใช้บริการ” ด้วย

คำว่า “ข้อมูลส่วนบุคคล” ตามที่ปรากฏในนโยบายนี้จะหมายความว่า ข้อมูลใดๆ ที่อาจถูกใช้ตามความจำเป็นเพื่อระบุตัวบุคคลของท่าน เช่น เลขหมายโทรศัพท์ และเลขหมายระบุเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่

ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

เมื่อท่านตกลงยอมรับเงื่อนไขการใช้บริการและเริ่มใช้บริการ โปรแกรมการใช้งานจะเก็บรวบรวมและส่งรายละเอียดของบุคคล เช่น เลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่และอุปกรณ์ ไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่ายของบริษัทฯ ดังนั้นโปรดรับทราบว่า ความผิดพลาดของการให้หรือเก็บข้อมูล ความไม่ถูกต้อง หรือข้อมูลที่ไม่เป็นปัจจุบันอาจทำให้ความสามารถในการให้บริการของบริษัทฯ ลดลงและอาจต้องติดต่อท่านเมื่อมีความจำเป็น

ข้อมูลนอกเหนือจากที่กล่าวข้างต้นแล้วอาจถูกเก็บรวบรวมเพิ่มขึ้นเมื่อบริษัทฯ มีการติดต่อกับท่าน ตัวอย่างเช่น ถ้าท่านส่งคำร้องขอใดๆ หรือติดต่อกับทีมงานสนับสนุนของบริษัทฯ หรือรายงานการใช้งานต่อทีมงานของบริษัทฯ เพื่อการให้บริการที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น

ข้อมูลการระบุตำแหน่งที่ตั้งที่จัดเก็บ

เมื่อท่านใช้เครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่ของท่านซึ่งมีการติดตั้งโปรแกรมการใช้งานแล้ว บริษัทฯ จะเก็บรวบรวมข้อมูลการระบุตำแหน่งที่ตั้งของท่าน และบริษัทฯ จะใช้ข้อมูลดังกล่าวเพียงเพื่อการให้บริการแก่ท่านเท่านั้น ซึ่งบริษัทฯ อาจมีการใช้ข้อมูลการระบุตำแหน่งที่ตั้งของท่านดังกล่าวเพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานที่ตั้ง ร้านค้า สถานที่อื่น และสิ่งที่น่าสนใจที่อยู่ใกล้เคียง โดย บริษัทฯ จะไม่ใช้ข้อมูลการระบุตำแหน่งของท่าน ไปใช้ในบริการข้อมูลการจราจร โดยบริการของบริษัทฯ จะอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลที่ได้รับจากอุปกรณ์ระบุตำแหน่ง GPS ของบริษัทฯ ที่ติดตั้งอยู่ในรถแท๊กซี่ ซึ่งจุดนี้ถือเป็นจุดเดินที่สุดของการให้บริการสภาพจราจรของเรา

การยกเลิกบริการข้อมูลการระบุตำแหน่งโดยการยกเลิกการติดตั้งโปรแกรมใช้งาน

ท่านอาจยกเลิกการติดตั้งโปรแกรมใช้งานไม่ว่าในเวลาใดด้วยการใช้โปรแกรมยกเลิกโปรแกรมการใช้งาน หรือใช้โปรแกรมถอดถอนของระบบปฏิบัติการของท่าน เมื่อเข้าสู่กระบวนการยกเลิกโปรแกรมการใช้งาน บริษัทฯ จะไม่สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลการระบุตำแหน่งจากท่านได้ หรือให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ตั้ง ร้านค้า สถานที่อื่น และสิ่งที่น่าสนใจที่อยู่ใกล้เคียงแก่ท่านได้

ข้อมูลคำอธิบายที่จัดเก็บ

บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บริการ ตัวอย่างเช่น บริษัทฯ อาจบันทึกความถี่ ขอบเขตการใช้บริการของท่าน ช่วงเวลาการใช้บริการ เว็บไซต์ที่ท่านเข้าไป ข้อมูลที่ท่านอ่าน ข้อความที่ท่านใช้หรือสร้างขึ้น โฆษณาที่ท่านเข้าไปดู การติดต่อสื่อสารกับผู้ใช้บริการรายอื่นหรือบุคคลภายนอก หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ ชื่อเว็บไซต์ที่ท่านใช้ในการเข้าถึงบริการ และพิกัดของระบบคอมพิวเตอร์ที่ท่านกำลังใช้ในการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะถูกเก็บรวบรวมโดยอัตโนมัติไว้ในข้อมูลการเชื่อมต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่ายที่ใช้ในการให้บริการ

สิ่งที่บริษัทฯ ทำกับข้อมูลการระบุตัวบุคคลของท่าน

บริษัทฯ อาจใช้ข้อมูลการระบุตัวบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

  1. เพื่อให้บริการและทำให้ท่านสามารถใช้บริการได้ ตัวอย่างเช่น บริษัทฯ อาจใช้หมายเลขโทรศัพท์ที่ท่านให้ไว้เพื่อแจ้งเส้นทางการขับขี่ที่ชอบหรือแนะนำ หรือเพื่อแจ้งข้อความสำหรับการดาวน์โหลดโปรแกรมใช้งาน หรือเพื่อแจ้งชื่อผู้ใช้งานและรหัสผ่านในกรณีที่จำเป็น
  2. เพื่อให้บริการ และเพื่อปรับปรุงการใช้บริการและการให้บริการร่วมกับผู้ใช้บริการรายอื่น
  3. เพื่อสนับสนุนและดูแลข้อเรียกร้องและข้อร้องเรียนของท่าน
  4. เพื่อส่งข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน การบอกกล่าว ประกาศ และข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการ
  5. เพื่อส่งข้อมูลทางการตลาดและการโฆษณาภายใต้ความยินยอมที่ท่านให้ไว้ก่อน แต่ไม่ว่ากรณีใดๆ บริษัทฯ จะไม่นำข้อมูลเกี่ยวกับการระบุตัวบุคคลของท่านไปแลกเปลี่ยนกับผู้ประกอบการโฆษณาโดยปราศจากความยินยอมที่ชัดเจนจากท่าน
  6. เพื่อการสำรวจข้อมูลหรือการออกแบบสอบถามต่างๆ
  7. เพี่อบังคับให้เป็นไปตามเงื่อนไขการใช้บริการ
  8. เพื่อการติดต่อกับท่านเมื่อบริษัทฯ เห็นว่ามีความจำเป็น
  9. เพื่อปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือการบังคับให้เป็นไปตามกฎหมายของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อบริษัทฯ เชื่อโดยสุจริตว่าการประส่านงานกับหน่วยงานดังกล่าวเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ซึ่งกำหนดไว้ตามกฎหมายหรือเป็นไปตามมาตรฐานทางกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่
  10. เพื่อป้องกันการฉ้อโกง การยักยอก การละเมิดกฎหมาย การสวมรอยกระทำความผิด การกระทำผิดกฎหมายอย่างอื่น และการใช้บริการในทางที่ผิด
  11. เพื่อดูแลเกี่ยวกับการหยุดให้บริการหรือการให้บริการที่ผิดปกติ
  12. เพื่อบันทึกการกระทำในกรณีที่มีข้อพิพาทหรือการดำเนินการทางกฎหมายระหว่างท่านและบริการ หรือระหว่างท่านและผู้ใช้บริการรายอื่นหรือบุคคลภายนอกที่มีความสัมพันธ์ด้วยหรือที่เกี่ยวข้องกับบริการ
  13. เพื่อวัตถุประสงค์ตามที่กำหนดไว้ในนโยบายนี้และเงื่อนไขการใช้บริการ

การแลกเปลี่ยนข้อมูลกับบุคคลอื่น

บริษัทฯ จะไม่ขายหรือให้เช่าข้อมูลการระบุตัวบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด

บริษัทฯ จะไม่เปิดเผยข้อมูลการระบุตัวบุคคลของท่านโดยปราศจาความยินยอมของท่าน เว้นแต่เมื่อมีความจำเป็นในการทำให้บริการสามารถทำงานได้หรือให้บริการแก่ท่านได้ตามปกติ หรือเพื่อป้องกันอันตรายฉุกเฉิน หรือเมื่อบริษัทฯ ถูกร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลตามกฎหมาย

บริษัทฯ จะไม่แลกเปลี่ยนข้อมูลการระบุตัวบุคคลของท่านกับบุคคลอื่นโดยปราศจาความยินยอมของท่าน เว้นแต่กรณีที่บริษัทฯ พิจารณาโดยสุจริตแล้วเห็นว่ามีความจำเป็นและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

  1. เมื่อท่านใช้บริการ เมื่อท่านมีส่วนในการทำข้อมูลหรือข้อความ และเมื่อมีความจำเป็นในการทำให้บริการสามารถทำงานได้ตามปกติ
  2. ถ้าบริษัทฯ มีเหตุให้เชื่อได้ว่าท่านผิดเงื่อนไขในการใช้บริการ หรือละเมิดสิทธิในการใช้บริการ หรือกระทำหรือละเว้นการกระทำที่บริษัทฯ มีเหตุให้เชื่อได้ว่าจะเป็นการละเมิดกฎหมาย ข้อบังคับ หรือระเบียบที่เกี่ยวข้อง ซึ่งบริษัทฯ อาจแลกเปลี่ยนข้อมูลของท่านในกรณีนี้ หรือกรณีที่เป็นการใช้อำนาจของหน่วยงานตามกฎหมายหรือหน่วยงานที่มีความสามารถ หรือกับบุคคลภายนอกที่ได้รับการร้องขอให้จัดการกับการใช้บริการที่ผิดปกติของท่าน
  3. ถ้าบริษัทฯ ถูกร้องขอหรือมีเหตุที่เชื่อได้ว่าบริษัทฯถูกร้องขอโดยกฎหมายให้มีการแลกเปลี่ยนหรือเปิดเผยข้อมูลของท่าน
  4. ในกรณีที่มีพิพาทหรือการดำเนินการทางกฎหมายระหว่างท่านและบริการ หรือระหว่างท่านและผู้ใช้บริการรายอื่นหรือบุคคลภายนอกที่มีความสัมพันธ์ด้วยหรือที่เกี่ยวข้องกับบริการ
  5. ในกรณีที่บริษัทฯ มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าการแลกเปลี่ยนข้อมูลมีความจำเป็นในการป้องกันเหตุฉุกเฉินหรือความเสียหายแก่ทรัพย์สิน
  6. ถ้าบริษัทฯ จัดตั้งกระบวนการให้บริการภายใต้ขอบเขตการทำงานที่แตกต่างไป หรือผ่านองค์กรที่จัดตั้งตามกฎหมาย หรือถ้าบริษัทฯ ถูกยึดหรือควบรวมกิจการกับนิติบุคคลอื่น หรือถ้าบริษัทฯ ล้มละลาย ทั้งนี้ ภายใต้เงื่อนไขว่าองค์กรหรือนิติบุคคลเหล่านั้นตกลงที่จะผูกพันตามเงื่อนไขที่กำหนดของนโยบายนี้ และโดยเฉพาะได้มีการพิจารณาการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นด้วย
  7. บริษัทฯ อาจแลกเปลี่ยนข้อมูลการระบุตัวบุคคลของท่านกับบริษัทหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องหรือเป็นบริษัทในเครือของบริษัทฯ เช่น บริษัทสาขา บริษัทที่มีกรรมการร่วมกัน บริษัทที่อยู่ภายใต้การควบคุม และหน่วยงานอื่นที่มีความร่วมมือกัน ทั้งนี้ การใช้ข้อมูลดังกล่าวของบริษัทหรือองค์กรเหล่านั้นจะต้องเป็นไปตามนโยบายที่กำหนดไว้นี้

วิธีการใช้ข้อมูลที่รวบรวมมา

บริษัทฯ อาจใช้นามแฝง ตัวเลข หรือข้อมูลที่รวบรวมมาเพื่อให้บริการ เพื่อปรับปรุงคุณภาพการบริการ เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ เพื่อสร้างสรรค์บริการหรือลักษณะใหม่หรือทำให้บริการใช้งานได้อย่างเหมาะสม เพื่อเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกข้อมูลหรือข้อความหรือบริการ และเพื่อวัตถุประสงค์ภายใน วัตถุประสงค์ทางการค้า และวัตถุประสงค์ทางสถิติ

บริษัทฯ อาจใช้นามแฝง ตัวเลข หรือข้อมูลที่รวบรวมมาเพื่อแสดง เผยแพร่ ถ่ายทอด ติดต่อสื่อสาร หรือเพื่อให้ผู้ใช้บริการ ผู้ให้บริการ ผู้เป็นหุ้นส่วน หรือบุคคลภายนอกได้รับข้อมูล

การเก็บข้อมูล

บริษัทฯ จะไม่เก็บข้อมูลสถานที่ตั้งนานเกินกว่าความจำเป็นสำหรับการบริการและเพื่อเหตุที่จำเป็นในทางธุรกิจ หลังจากนั้นหรือเมื่อพ้น 6 เดือน นับแต่การเชื่อมเพื่อใช้บริการครั้งสุดท้าย แล้วแต่เวลาใดจะนานกว่า ข้อมูลสถานที่ตั้งจะถูกลบออก

บริษัทฯ อาจทบทวน เก็บ และเปิดเผยข้อมูลใดในเวลาใดก็ได้ หากบริษัทฯ เห็นว่ามีความจำเป็นตามกฎหมาย ระเบียบ ขั้นตอนทางกฎหมาย รัฐร้องขอ และความจำเป็นของบริษัทฯ ทั้งนี้ บริษัทฯ ไม่จำเป็นต้องให้การรับรอง ยืนยัน หรือดำเนินการใดที่เป็นการแสดงถึงความรับผิดชอบในการดำเนินการดังกล่าวไม่ว่าโดยชัดแจ้งหรือโดยปริยาย

ความปลอดภัยของข้อมูล

บริษัทฯ พิจารณาถึงความปลอดภัยของข้อมูลว่าเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด บริษัทฯ จะจัดเตรียมระบบคอมพิวเตอร์ โปรแกรมใช้งาน และกระบวนการเพื่อรักษาความปลอดภัยแก่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อลดความเสี่ยงจากการถูกโจรกรรม การเกิดความเสียหาย การสูญเสียข้อมูล หรือการเข้าถึงโดยหรือใช้ประโยชน์โดยบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาต อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ไม่รับรองว่ามาตรการดังกล่าวจะสามารถป้องกันได้อย่างสมบูรณ์ ดังนั้นแม้ว่าบริษัทฯ จะพยายามอย่างที่สุดเพื่อป้องกันข้อมูลส่วนบุคคล แต่บริษัทฯ ไม่สามารถรับรองและท่านไม่อาจคาดหวังว่า ฐานข้อมูลของบริษัทฯ จะปราศจากข้อผิดพลาด การทำงานที่ผิดปกติ การสกัดกั้นหรือการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือการละเมิดและใช้ประโยชน์โดยผิดวัตถุประสงค์

การเปลี่ยนแปลงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ อาจเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขตามที่กำหนดในนโยบายนี้ได้ในบางครั้ง การเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขที่เป็นสาระสำคัญจะมีผลใช้บังคับหลังจากบริษัทฯ ได้ประกาศแจ้งความในเว็บไซต์ของบริษัทฯ หรือเว็บไซต์อื่นที่เกี่ยวข้อง

การที่ท่านมีการใช้บริการต่อไปเมื่อเงื่อนไขของนโยบายการคุ้มครองส่วนบุคคลมีการเปลี่ยนแปลงแล้ว ย่อมถือได้ว่าท่านตกลงยอมรับที่จะผูกพันตามเงื่อนไขของนโยบายการคุ้มครองส่วนบุคคลที่มีการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ถ้าหากท่านไม่ตกลงยินยอมด้วยกับนโยบายการคุ้มครองส่วนบุคคลที่มีการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ท่านต้องยุติการใช้บริการต่อไปทันที

ปรับปรุงครั้งล่าสุด : 18 กรกฎาคม 2555